|
ข่าวที่ผ่านมา |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
เฮียเล่งเค็งแนะ...ใช้ "เดนมาร์ก" เป็นต้นแบบแก้ราคาตก |
|
|
|
|
|
|
ในอดีตเมื่อกล่าวถึงการเลี้ยงสุกร หลายคนคงนึกถึงจังหวัด "นครปฐม" ซึ่งเคยเป็นพื้นที่เลี้ยงสุกรที่ใหญ่ที่สุดของประเทศถึงปีละ 1.2 ล้านตัว พื้นที่เลี้ยงส่วนใหญ่อยู่ในอำเภอเมือง สามพราน กำแพงแสน และนครชัยศรี แต่จากการขยายตัวของเมืองและชุมชน ประกอบกับปัญหาการบำบัดของเสีย และมลภาวะจากของเสียในการเลี้ยงสุกร ส่งผลให้ปัจจุบัน "นครปฐม" ไม่ใช่จังหวัดที่เลี้ยงสุกรมากที่สุดอีกต่อไป วันนี้มีสุกรเพียง 400,000 ตัวต่อปี
เนื่องจากเกษตรกรหันไปเลี้ยงที่จังหวัดราชบุรีแทน เพราะเป็นพื้นที่ห่างไกลชุมชน ซึ่งทุกวันนี้พบว่า ราชบุรีมีการเลี้ยงสุกรเพิ่มขึ้นเป็นปีละ 1.6 ล้านตัว จากเดิมปีละ 800,000 ตัว และมีแนวโน้มการย้ายฐานการผลิตจากนครปฐมไปราชบุรีเพิ่มขึ้นทุกปี ซึ่งเป็นผลจากการขยายตัวของเมืองเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันสุกรที่เลี้ยงสุกรจะถูกส่งกลับมาเชือดชำแหละที่โรงฆ่าในนครปฐมเช่นเดิม จึงถือได้ว่า นครปฐม ยังเป็น "ศูนย์กลางการค้าสุกร" ของประเทศ ส่งสุกรป้อนตลาดกรุงเทพฯ มากถึงวันละ 5,000 ตัว |
|
คุณประพันธ์ ตั้งจารุวัฒนชัย หรือ เฮียเล่งเค็ง นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรนครปฐม และ เจ้าของเล่งเค็งฟาร์ม เผยว่า ปัจจุบันเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรในจังหวัดนครปฐมกำลังประสบปัญหาต้นทุนการผลิตสูง ซึ่งเป็นผลจากราคาอาหารสัตว์ที่ปรับตามราคาวัตถุดิบที่เพิ่มขึ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ เช่น รำ จากเดิมกิโลกรัมละ 9 บาท เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 12 บาท ปลายข้าวเมล็ดเล็กจากกิโลกรัมละ 13.20 บาท เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 13.80 บาท กากถั่วไขมันเต็ม หรือ ฟูลเฟตซอยบีนมิลล์ จากเดิมกิโลกรัมละ 21.50 บาท เป็นกิโลกรัมละ 26.50 บาท ปลาป่นจากกิโลกรัมละ 32 บาท เพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 38 บาท มีแค่ข้าวโพดเพียงชนิดเดียวที่ราคาลดลงจากกิโลกรัมละ 15 บาท เหลือกิโลกรัมละ 12 บาท แต่ก็ถือว่า ยังอยู่ในระดับสูง นอกจากนั้น ยังเจอปัญหาขึ้นค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (เอฟที) 48 สตางค์ต่อหน่วย ทำให้ค่าไฟฟ้าในโรงเรือนสุกรเพิ่มขึ้น เช่น ฟาร์มขนาดใหญ่จ่ายค่าไฟฟ้าเดือนละ 40,000-50,000 บาท เพิ่มเป็นเดือนละ 60,000 บาท เกษตรกรต้องแบกรับต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นทั้งค่าอาหารและค่าไฟฟ้าที่สวนทางกับราคาสุกรที่ตกต่ำในขณะนี้
จากต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้นเกษตรกรต้องการให้ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มอยู่ที่กิโลกรัมละ 58 บาท เพื่อให้สอดคล้องกับต้นทุน แต่ทุกวันนี้ราคาหน้าฟาร์มลดเหลือเพียงกิโลกรัมละ 45-47 บาท เท่านั้น ถือว่า เป็นราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิตค่อนข้างมาก พร้อมกันนี้เกษตรกรยังได้เรียกร้องให้รัฐบาลเข้ามาช่วยจัดหาข้าวโพดราคาถูก ด้วยการเร่งให้พ่อค้าเร่งระบายข้าวโพดออกสู่ตลาดหรือต้องนำเข้าข้าวโพดราคาถูกจากประเทศเพื่อนบ้านเข้า เพื่อช่วยลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร
ขณะที่การแก้ปัญหาราคาสุกรตกต่ำนั้น รัฐต้องดูรูปแบบจาก "ประเทศเดนมาร์ก" เพราะมีสหกรณ์ที่เข้มแข็งมาก ถ้าจัดตั้งเป็นสหกรณ์ในลักษณะนี้จะส่งผลดี คือ การลดต้นทุนค่าอาหาร อาจมีการผลิตอาหารใช้เอง สกัดราคาพ่อค้าคนกลาง จัดช่องทางการจำหน่ายสุกรเอง มีการวางแผนงานอย่างเป็นระบบ ทำให้เจ้าของฟาร์ม และผู้บริโภคไม่เสียเปรียบ ซึ่งจะควบคุมราคาสุกรไม่ให้ผันผวนสูง หรือต่ำมากเกินไปได้ อีกแนวทางหนึ่งคือ ส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกรเพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์ หากทำได้จะช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าได้ถึง 30 เปอร์เซ็นต์ โดยจะต้องสร้างแบรนด์ของจังหวัด และส่งออกต่างประเทศ
ปัจจุบันการส่งออกลูกสุกรไปยังประเทศลาวก็กำลังสดใส ลูกสุกรน้ำหนัก 16 กิโลกรัม ราคา 1,500 บาท เฉพาะเล่งเค็งฟาร์มส่งลูกสุกรไปประเทศลาวปีละ 28,000 ตัว ส่วนสุกรขุนมีชีวิตส่งไปเวียดนาม กัมพูชา และจีน เฉลี่ยปีละ 30,000-40,000 ตัว ซึ่งตลาดเหล่านี้ยังมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง... |
|
|
|
|
ข้อมูลโดย นิตยสาร พิก แอนด์ พอร์ค |
|
|
|