|
|
อุตสาหกรรมไก่ไข่ ในประเทศอาเซียนเป็นอย่างไร ??? |
|
|
|
ปัจจุบันอุตสาหกรรมการเลี้ยงไก่ไข่ในประเทศไทยกำลังประสบปัญหาผลผลิตไข่ล้นตลาด ทำให้ราคาไข่คละหน้าฟาร์มตกต่ำอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นผลพวงจากการเพิ่มเป็น 40 ล้านตัว มีผลผลิตไข่เฉลี่ย 31.73 ล้านฟองต่อวัน ซึ่งเกินความต้องการบริโภคที่มีเพียง 28-29 ล้านฟองต่อวัน ต่อมาในปีนี้ คาดการณ์ว่า ปริมาณไก่ไข่ยืนกรงเฉลี่ยทั้งปีที่ 54 ล้านตัว โดยช่วงเดือนมกราคมจะมีไก่ยืนกรง 45 ล้านตัว และคาดว่าจะเพิ่มเป็น 60 ล้านตัว ในเดือนธันวาคม ปี 55 ขณะที่ผลผลิตไข่เฉลี่ยอยู่ที่ 40 ล้านฟองต่อวัน โดยช่วงเดือนมกราคาจะอยู่ที่ 34 ล้านฟองต่อวัน และเพิ่มเป็น 45 ล้านฟองต่อวัน ในเดือนธันวาคมนี้ เมื่อเทียบกับปริมาณไข่ก่อนเปิดนำเข้าเสรี ถือว่าเพิ่มขึ้นกว่า 44 เปอร์เซ็นต์ หรือต้องรณรงค์ให้คนไทยบริโภคไข่เพิ่มขึ้นเป็น 255 ฟองต่อคนต่อปี จึงต้องหาทางออก เพื่อบรรเทาปัญหาและผลกระทบ |
|
การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี (AEC) ที่ช่วยเพิ่มตลาดรองรับจาก 60 กว่าล้านคนในประเทศไทย เป็นกว่า 600 ล้านคนในอนาคต แต่ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องทราบข้อมูลอุตสาหกรรมไก่ไข่ของอาเซียนและแต่ละประเทศสมาชิกที่มีศักยภาพในการผลิตไข่ไก่ เพื่อนำมาใช้วางแผนการผลิตและการตลาด เพื่อแข่งขันต่อไป โดยข้อมูลในปี 52 พบว่ากลุ่มอาเซียนมีการผลิตไข่ไก่ประมาณ 61,282 ล้านฟอง คิดเป็น 5.72 เปอร์เซ็นต์ ของการผลิตโลก (อยู่ที่ 1,072,190 ล้านฟอง) มีการส่งออก 1,728 ล้านฟอง คิดเป็น 6.88 เปอร์เซ็นต์ ของการส่งออกโลก (อยู่ที่ 25,122 ล้านฟอง) มีการนำเข้า 1,211 ล้านฟอง คิดเป็น 4.89 เปอร์เซ็นต์ ของการนำเข้าโลก (อยู่ที่ 24,775 ล้านฟอง)
|
|
เมื่อพิจารณารายประเทศพบว่า อินโดนีเซีย เป็นประเทศที่มีการผลิตไข่ไก่มากที่สุด ในปี 53 ผลิต 23,550 ล้านฟอง รองลงมา คือ ไทย ผลิต 10,800 ล้านฟอง อันดับที่ 3 เป็นมาเลเซีย ผลิต 8,290 ล้านฟอง ฟิลิปปินส์ ผลิต 8,060 ล้านฟอง และเวียดนาม ผลิต 5,877 ล้านฟอง |
|
การผลิตไข่ไก่ของอาเซียน หน่วย : ล้านฟอง
ประเทศ |
2549 |
2550 |
2551 |
2552 |
2553 |
บรูไน |
118 |
120 |
122 |
124 |
124 |
กัมพูชา |
380 |
437 |
430 |
406 |
406 |
อินโดนีเซีย |
22,462 |
26,100 |
25,000 |
23,550 |
23,550 |
ลาว |
304 |
298 |
322 |
329 |
329 |
มาเลเซีย |
7,240 |
7,700 |
7,520 |
7,630 |
8,290 |
พม่า |
4,382 |
4,831 |
5,497 |
5,497 |
5,497 |
ฟิลิปปินส์ |
11,200 |
10,400 |
7,270 |
7,642 |
8,060 |
สิงคโปร์ |
386 |
407 |
369 |
364 |
378 |
ไทย |
9,974 |
10,668 |
11,258 |
10,585 |
10,800 |
เวียดนาม |
3,969 |
4,466 |
4,937 |
5,279 |
5,877 |
ที่มา : FAOStat, USDA |
|
ขณะที่การนำเข้าไข่ไก่ของอาเซียน ในปี 53 พบว่า สิงคโปร์ เป็นประเทศที่มีการนำเข้าไข่ไก่มากที่สุด ประมาณ 1,198 ล้านฟอง รองลงมาคือประเทศบรูไน ประมาณ 9.17 ล้านฟอง อันดับที่ 3 คือ มาเลเซียนำเข้า 5.82 ล้านฟอง และพม่า นำเข้าประมาณ 5.30 ล้านฟอง |
|
การนำเข้าไข่ไก่ของอาเซียน หน่วย : ล้านฟอง
ประเทศ |
2549 |
2550 |
2551 |
2552 |
2553 |
บรูไน |
1.71 |
14.99 |
5.46 |
9.98 |
9.17 |
กัมพูชา |
0.00 |
0.16 |
0.56 |
2.27 |
2.27 |
อินโดนีเซีย |
0.46 |
4.38 |
8.42 |
2.11 |
0.06 |
ลาว |
0.00 |
0.00 |
0.00 |
0.00 |
0.00 |
มาเลเซีย |
0.84 |
3.06 |
4.29 |
8.85 |
5.82 |
พม่า |
0.60 |
0.80 |
6.88 |
4.22 |
5.30 |
ฟิลิปปินส์ |
0.05 |
0.30 |
0.91 |
0.08 |
0.08 |
สิงคโปร์ |
929 |
987 |
1,049 |
1,114 |
1,198 |
ไทย |
0.16 |
1.94 |
3.26 |
1.26 |
0.22 |
เวียดนาม |
0.00 |
0.16 |
0.06 |
0.18 |
0.19 |
ที่มา : FAOStat, USDA |
|
ด้านการส่งออกไข่ไก่ของอาเซียน ปี 53 พบว่า มาเลเซีย เป็นผู้ส่งออกไข่ไก่มากที่สุด ประมาณ 1,565.81 ล้านฟอง รองลงมา คือ ไทย ส่งออก 140 ล้านฟอง และเวียดนาม มีการส่งออก 22.33 ล้านฟอง |
|
การส่งออกไข่ไก่ของอาเซียน หน่วย : ล้านฟอง
ประเทศ |
2549 |
2550 |
2551 |
2552 |
2553 |
บรูไน |
0 |
0 |
0 |
0 |
0 |
กัมพูชา |
n/a |
n/a |
n/a |
n/a |
n/a |
อินโดนีเซีย |
0.16 |
1.12 |
0.30 |
0.05 |
0.11 |
ลาว |
n/a |
n/a |
n/a |
n/a |
n/a |
มาเลเซีย |
965.87 |
1,035.12 |
1,108.43 |
1,817.86 |
1,565.81 |
พม่า |
0 |
0 |
0 |
0 |
0 |
ฟิลิปปินส์ |
0.32 |
0.21 |
0.14 |
0.08 |
0.06 |
สิงคโปร์ |
1.81 |
3.17 |
4.56 |
1.18 |
0.13 |
ไทย |
110 |
241 |
406 |
350 |
140 |
เวียดนาม |
14.88 |
23.09 |
26.86 |
26.80 |
22.33 |
ที่มา : FAOStat, USDA |
|
สถานการณ์ไข่ไก่ในอินโดนีเซีย |
เมื่อพิจารณาสถานการณ์ไข่ไก่ของประเทศที่มีศักยภาพการผลิตสูงในอาเซียน เริ่มจาก "อินโดนีเซีย" การเลี้ยงสัตว์ปีกในอินโดนีเซีย แบ่งตามแหล่งการผลิต พบว่า กว่า 60 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นการผลิตจากเกาะชวา อีก 30 เปอร์เซ็นต์ จากเกาะสุมาตรา และจากพื้นที่อื่นๆ อีกประมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้ ในภาพรวมอุตสาหกรรมสัตว์ปีกมีการลงทุนกว่า65,000 ล้านเหรียญเหรียญต่อปี ส่งผลให้มีการจ้างงานกับประชาชนประมาณ 10 ล้านคน รวมถึงจัดจำหน่ายสัตว์ปีกมีชีวิตไปยังตลาด 13,000 แห่ง ทั่วประเทศ |
ข้อมูลอุตสาหกรรมสัตว์ปีกของอินโดนีเซีย
รายการ |
หน่วย |
จำนวน |
ประชากรภายในประเทศ |
ล้านคน |
317 |
ไก่ไข่ |
ล้านตัว |
83 |
ไก่เนื้อ |
พันล้านตัว |
1.25 |
เป็ด |
ล้านตัว |
35 |
จำนวนพ่อแม่พันธุ์ไก่เนื้อ |
พันล้านตัว |
1.3 |
จำนวนพ่อแม่พันธุ์ไก่ไข่ |
ล้านตัว |
90 |
ปริมาณเนื้อสัตว์ปีก |
ล้านตัน |
1.25 |
ปริมาณไก่ไข่ |
ล้านตัน |
1.3 |
ปริมาณอาหารสัตว์ |
ล้านตัน |
9.6 |
|
|
อย่างไรก็ตาม การบริโภคเนื้อสัตว์ปีกภายในอินโดนีเซียยังต่ำกว่าประเทศไทย เช่น การบริโภคไข่ไก่ของอินโดนีเซียจะอยู่ที่ 87 ฟองต่อคนต่อปี ขณะที่ไทยบริโภค 155 ฟองต่อคนต่อปี แต่อินโดนีเซียให้ความสำคัญกับการส่งเสริมให้ประชาชนบริโภคไข่ไก่ เห็นได้จากกฎหมายฉบับที่ 7 ปี 2539 ว่า ด้วยการบริหารจัดการด้านอาหาร เพื่อสร้างความมั่นคงทางด้านอาหาร ซึ่งเป็นรากฐานที่จำเป็นสำหรับการพัฒนาประเทศในระยะยาว ส่งผลให้เกิดการส่งเสริมมีการบริโภคอาหารอย่างเพียงพอ โดยไข่ไก่และเนื้อไก่เป็นอาหารประเภทหนึ่งที่ปัจจุบันชาวอินโดนีเซียนเข้าถึงหรือรับประทานได้อย่างเพียงพอ นอกจากนั้น การจัดวันไข่โลกยังเป็นอีกกิจกรรมหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงการรณรงค์ให้มีการบริโภคไข่ไก่อย่างจริงจังของรัฐบาลอินโดนีเซีย โดยจะจัดขึ้นในสัปดาห์ที่ 2 ของเดือนตุลาคม มีการเชิญผู้ที่มีชื่อเสียงรับประทานไข่ไก่ รวมถึงให้ข้อมูลเกี่ยวกับประโยชน์ของไข่ในวันดังกล่าว และยังมีอีกหลากหลายวิธีการ เพื่อส่งเสริมบริโภคไข่ไก่ เช่น การจัดอาหารเมนูไข่ในโรงเรียน การจัดนิทรรศการ การโฆษณา การพัฒนาผลิตภัณฑ์ไข่ให้มีความหลากหลาย เป็นต้น |
|
การบริโภคเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์ของอินโดนีเซีย |
|
หน่วย : กิโลกรัม/คน/ปี
รายการ |
2551 |
2552 |
2553 |
เนื้อสัตว์ |
5.12 |
5.36 |
5.42 |
-โคกระบือ |
1.17 |
1.29 |
1.33 |
-เนื้ออื่นๆ |
0.89 |
0.95 |
0.97 |
-เนื้อไก่ |
2.39 |
2.52 |
2.52 |
-เนื้อสัตว์ปีกอื่นๆ |
0.67 |
0.6 |
0.6 |
นม |
9.51 |
11.6 |
11.82 |
ไข่ |
5.35 |
5.17 |
5.39 (คิดเป็น 87 ฟอง) |
|
|
การส่งเสริมการบริโภคไข่ไก่ในอินโดนีเซีย ไม่ได้หวังเพียงที่จะให้คนในประเทศมีอาหารที่เพียงพอ หรือแก้ปัญหาการขาดแคลนอาหาร มีสุขภาพที่ดี มีสติปัญหาที่ชาญฉลาดเท่านั้น แต่การส่งเสริมการบริโภคยังนำมาซึ่งรายได้ที่มากขึ้นของเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่ อันจะนำไปสู่สถานะทางสังคมที่ดีขึ้น |
|
สถานการณ์ไข่ไก่ในมาเลเซีย |
มาเลเซียมีการเลี้ยงไก่ไข่เฉพาะส่วนที่เป็นคาบสมุทร จะมีผู้ประกอบการรายใหญ่ 5 ราย รวม 14 ฟาร์ม และมีเกษตรกรรายย่อยอีก 340 ฟาร์ม มีปริมาณไก่ไข่พ่อแม่พันธุ์ 507,000 ตัว รวมถึงไก่ไข่ยืนกรงอีกกว่า 30 ล้านตัว ซึ่งปริมาณการผลิตไข่ไก่ตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมามีอัตราการเจริญเติบโตอยู่ที่ 4-5 เปอร์เซ็นต์ โดยคาดว่า มาเลเซียจะผลิตไข่ไก่เพิ่มจาก 8,290 ล้านฟองในปี 53 มาเป็นได้ถึง 8,640 ล้านฟอง ในปี 54 (ขณะที่ประเทศไทยผลิต 11,500 ล้านฟอง) หรือคิดเป็นการผลิตประมาณ 23 ล้านฟองต่อวัน
ด้านการบริโภคไข่ไก่ มาเลเซียมีการส่งเสริมให้ประชากรมีการบริโภคไข่ไก่อย่างจริงจังเช่นเดียวกับอินโดนีเซีย เห็นได้จาก จำนวนประชากรมาเลเซีย 28 ล้านคน รวมประชากรองสิงคโปร์ที่บริโภคไข่ไก่จากมาเลเซียอีกประมาณ 5 ล้านคน มีการบริโภคไข่ไก่เฉลี่ย 295 ฟองต่อคนต่อปี และหากพิจารณาเฉพาะประชากรที่อาศัยอยู่ในคาบสมุทรนั้น จะมีการบริโภคไข่ไก่มากถึง 309 ล้านฟองต่อคนต่อปี เท่ากับสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ประชากรอาศัยอยู่เกาะมีการบริโภคไข่เกือบ 200 ฟองต่อคนต่อปี ซึ่งถือว่า อัตราการบริโภคสูง ทั้งนี้ เป็นผลมาจากไข่ไก่มีสารประโยชน์หลายชนิด ราคาไม่แพง หาซื้อได้ง่าย และประชากรทุกศาสนาบริโภคได้
สำหรับการจัดจำหน่ายไข่ไก่ ส่วนใหญ่จะจัดจำหน่ายในรูปของไข่ไก่สดถึง 99 เปอร์เซ็นต์ ของไข่ไก่ทั้งหมด มีเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ ที่จำหน่ายในรูปของไข่เหลว นอกจากนี้รัฐบาลมาเลเซียได้ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการผลิต เช่น การส่งเสริมให้มีการผลิตไข่ไก่ที่หลากหลาย โดยเพิ่มสารอาหารลงในไข่ไก่ ไม่ว่าจะเป็น ซีลิเนียม โอเมก้า 3 วิตามินอี การส่งเสริมให้มีการผลิตไข่เหลวรูปแบบที่หลากหลาย และส่งเสริมให้มีการผลิตมากขึ้น โดยปัจจุบันมาเลเซียมีโรงานผลิตไข่เหลวเพียง 3 แห่งหรือน้อยกว่านั้น การรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับสารอาหารที่ได้รับจากการบริโภคไข่ไก่ เพื่อเปลี่ยนความเชื่อเกี่ยวกับคลอเลสเตอรอลในไข่ไก่แก่ประชาชน โดยผู้เชี่ยวชาญและรัฐบาล การส่งเสริมให้แปรรูปไข่ไก่มากขึ้น การส่งเสริมให้มีการพัฒนาอาหารเมนูไข่ การรณรงค์ให้ประชาชนเห็นว่า ไข่ไก่ที่ผลิตภายในประเทศ ปราศจากการปนเปื้อน มีคุณภาพ และได้รับการยอมรับจากมาตรฐานของผู้นำเข้า |
|
สถานการณ์ไข่ไก่ในฟิลิปปินส์ |
อุตสาหกรรมสัตว์ปีกของฟิลิปปินส์ มีการเลี้ยงมากถึง 167 ล้านตัว เพิ่มขึ้นประมาณ 2 เปอร์เซ็นต์ จากปี 52 โดยเป็นไก่พื้นเมืองประมาณ 75 ล้านตัว ไก่เนื้อ 58.5 ล้านตัน รองลงมาเป็นไก่ไข่ และเป็ดตามลำดับ ทั้งนี้การเลี้ยงไก่พื้นเมืองมีแนวโน้มลดลงจากปีก่อนประมาร 0.7 เปอร์เซ็นต์ สำหรับการเลี้ยงไก่ไข่ เลี้ยงมากบนเกาะลูซอนประมาณ 19.4 ล้านตัว หรือคิดเป็น 67 เปอร์เซ็นต์ของการเลี้ยงไก่ไข่ทั้งหมดของฟิลิปปินส์ รองลงมาเป็นไวซาวาส ประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ โดยการเลี้ยงทั้งหมด ได้มีการนำเข้าพ่อแม่พันธุ์ปีละประมาณ 400,000 ตัว โดยนำเข้ามา 2 สายพันธุ์ คือ Lohman และ Dekalb ทั้งนี้ การผลิตไข่ไก่ของฟิลิปปินส์เป็นผลิตเพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศ ไม่มีการส่งออกไปขายต่างประเทศ
การจัดจำหน่าย ส่วนใหญ่จำหน่ายในรูปของไข่ไก่สด โดยมีต้นทุนการผลิตอยู่ที่ 0.085 เหรียญสหรัฐฯ ในขณะที่ราคาขายหน้าฟาร์มอยู่ที่ 0.08 เหรียญสหรัฐฯ และราคาจำหน่ายในท้องตลาดอยู่ที่ 0.10 เหรียญสหรัฐฯ ทั้งนี้ไข่ไก่ถูกมอมงว่า เป็นอาหารเช้าของชาวฟิลิปปินส์ ในขณะเดียวกันชาวฟิลิปปินส์ยังมีความเข้าใจเกี่ยวกับสารอาหารที่ได้จากไข่ไก่อย่างผิดๆ ส่งผลให้มีการบริโภคไข่ไก่เพียง 88 ฟองต่อคนต่อปี ถือว่าเป็นอัตราการบริโภคที่ต่ำมาก โดย
ฟิลิปปินส์ยังคงประสบปัญหาต้นทุนการผลิตและการจัดการสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม คาดว่า การส่งเสริมโดย NFEPP และการจัดเมนูไข่ในโรงเรียน จะช่วยเพิ่มการบริโภคไข่ไก่ให้สูงขึ้นได้ รวมถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น เศรษฐกิจ การเพิ่มของประชากร จะช่วยลดปัญหาในอุตสาหกรรมไข่ไก่ของฟิลิปปินส์ได้ |
|
สถานการณ์ไข่ไก่ในเวียดนาม |
เวียดนาม เพิ่งเป็นสมาชิกของอาเซียน โดยพื้นที่ส่วนใหญ่ เป็นพื้นที่สำหรับเพาะปลูก ประชากร 90 ล้านคน กว่า 94 เปอร์เซ็นต์ ยังเป็นเกษตรกร นอกจากนั้น การเลี้ยงสัตว์ยังไม่ค่อยเป็นระบบมากนัก มีเพียง 30 เปอร์เซ็นต์ ที่เป็นการเลี้ยงเชิงอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ถือได้ว่า อุตสาหกรรมการเลี้ยงสัตว์ทั้ง สุกร สัตว์ปีก ยังคงเป็นอาชีพที่สร้างรายได้ให้กับชาวเวียดนามถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
สำหรับปริมาณการเลี้ยงสัตว์ภายในประเทศ ส่วนใหญ่เป็นการเลี้ยงสุกร และสัตว์ปีก โดยเฉพาะไก่ที่มีการเลี้ยงมากถึง 60 เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณการเลี้ยงสัตว์ปีกทั้งหมด |
|
การผลิตสินค้าปศุสัตว์ของเวียดนาม หน่วย : ล้านตัว
รายการ |
2548 |
2549 |
2550 |
2551 |
2552 |
2553 |
สุกร |
27.435 |
26.855 |
26.56 |
26.7 |
27.63 |
27.373 |
โคเนื้อ |
5.54 |
6.51 |
6.72 |
6.34 |
6.103 |
5.916 |
โคนม |
0.104 |
0.113 |
0.0986 |
0.108 |
0.1155 |
0.1285 |
กระบือ |
2.922 |
2.921 |
2.996 |
2.897 |
2.886 |
2.913 |
สัตว์ปีก |
219.9 |
216.6 |
226 |
247.3 |
280.18 |
300.5 |
ไก่ |
150 |
153.5 |
157.6 |
176 |
200 |
218.2 |
แพะ |
1.31 |
1.52 |
1.78 |
1.48 |
1.375 |
1.228 |
ม้า |
0.11 |
0.087 |
0.103 |
0.121 |
0.102 |
0.093 |
|
|
การเลี้ยงสัตว์ปีกในช่วงปี 48-53 ค่อนข้างจะมีความสำคัญกับเวียดนามเป็นอย่างมาก เนื่องจากก่อนหน้าช่วงปีดังกล่าว โดยในปี 47 เวียดนามต้องประสบปัญหาไข้หวัดนกระบาดเช่นเดียวกับไทย ทำให้ปริมาณการผลิตสัตว์ลดลงประมาณ 14 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับการผลิตในปีก่อน ส่งผลให้ปริมาณเนื้อสัตว์ลดลง 15 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่ปริมาณไข่ไก่ลดลงมากที่สุดถึง 19 เปอร์เซ็นต์ อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีการควบคุมโรคระบาด การผลิตสัตว์ปีกของเวียดนามก็เติบโตได้อย่างน่าพอใจ |
|
การผลิตสินค้าสัตว์ปีกของเวียดนาม
รายการ |
หน่วย |
2548 |
2549 |
2550 |
2551 |
2552 |
2553 |
เติบโต (2552/53) |
ปริมาณเนื้อสัตว์ |
พันตัน |
2,812 |
3,076 |
3,295 |
3,486 |
3,902 |
4,006 |
2.67% |
เนื้อสุกร |
พันตัน |
2,288 |
2,505 |
2,662 |
2,771 |
3,031 |
3,027 |
9.87% |
เนื้อโค |
พันตัน |
142,16 |
159.5 |
106.1 |
227.2 |
263.4 |
278.9 |
5.90% |
เนื้อกระบือ |
พันตัน |
59.8 |
64.32 |
67.5 |
71.54 |
79.07 |
84.21 |
6.50% |
เนื้อสัตว์ปีก |
พันตัน |
321.9 |
344.4 |
358.8 |
417 |
467.3 |
615.9 |
31.78% |
นมสด |
พันตัน |
197.7 |
216 |
234.5 |
262.2 |
278.2 |
306.7 |
10.23% |
ไข่ไก่ |
ล้านฟอง |
3,948 |
3,969 |
4,466 |
4,937 |
5,279 |
5,877 |
11.33% |
|
|
จากข้อมูลเบื้องต้น ในช่วงปี 2548-2553 ถือว่า เวียดนาม ควบคุมการระบาดของโรคได้ในระดับหนึ่ง อย่างไรก็ตาม การเลี้ยงสัตว์ปีกในเวียดนามยังคงเป็นการเลี้ยงในครัวเรือนที่มีขนาดเล็กถึง 70 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้การควบคุมโรคระบาดจัดการได้ไม่เต็มที่ ทำให้อุตสาหกรรมสัตว์ปีกไม่อาจเติบโตได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว นอกจากนี้การผลิตสัตว์ปีกยังคงเป็นการรองรับการบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก ยังไม่มีการส่งออกไปขายยังต่างประเทศ พร้อมกันนี้ยังมีการนำเข้าเนื้อไก่ โดยเฉพาะขาและปีกไก่แช่แข็งประมาร 100,000 ตันต่อปี เข้ามายังเวียดนาม เพื่อสนองความต้องการบริโภคภายในประเทศ โดยนำเข้าจากสหรัฐอเมริกา บราซิล เกาหลีใต้ และอาร์เจนตินา เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเวียดนามได้มีการเพิ่มภาษี เพื่อลดการนำเข้า พร้อมกันนี้ได้เพิ่มปริมาณการผลิตเนื้อสัตว์ปีก เพื่อรองรับความต้องการภายในประเทศ โดยมีแผนการผลิตสัตว์ปีกในอนาคต |
|
แผนการผลิตเนื้อสัตว์ปีกของเวียดนาม ปี 2553-58
รายการ |
หน่วย |
2554 |
2555 |
2556 |
2557 |
2558 |
ปริมาณสัตว์ปีก |
ล้านตัว |
312.5 |
325.0 |
338.0 |
351.5 |
365.6 |
ปริมาณไก่ |
ล้านตัว |
222.7 |
231.6 |
240.8 |
250.5 |
260.5 |
เนื้อไก่ |
ล้านตัว |
665.1 |
718.3 |
775.8 |
837.8 |
905.0 |
ไข่ไก่ |
พันล้านฟอง |
6.3 |
6.9 |
7.4 |
8.0 |
8.6 |
|
|
สำหรับการผลิตไข่ จากข้อมูลในปี 53 พบว่า เวียดนามเป็นผู้ผลิตอันดับที่ 12 ของเอเซีย โดยปริมาณการผลิตทั้งตลอดระยะเวลากว่า 10 ปี เวียดนามมีการผลิตไข่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผลิตได้ในประเทศ แบ่งเป็นไข่ไก่ 70-72 เปอร์เซ็นต์ อีก 20-30 เปอร์เซ็นต์ เป็นไข่อื่นๆ เช่น ไข่เป็ด ไข่ห่าน รวมทั้งหากแบ่งตามขนาดการเลี้ยงพบว่า 45 เปอร์เซ็นต์ เป็นการเลี้ยงในครัวเรือนขนาดเล็ก ขณะที่ 55 เปอร์เซ็นต์เป็นการเลี้ยงในเชิงอุตสาหกรรม โดยการเลี้ยงแบบดังกล่าวมี แนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น |
|
การผลิตไข่ของเวียดนาม
ปี |
การผลิตไข่
(พันล้านฟอง) |
อัตราการเติบโต
(%) |
การบริโภคไข่/คน/ปี
(ฟอง) |
2543 |
3.8 |
9.5 |
48.6 |
2544 |
4.0 |
6.7 |
51.1 |
2545 |
4.5 |
12.6 |
56.7 |
2546 |
4.9 |
7.1 |
60.0 |
2547 |
3.9 |
-18.8 |
48.0 |
2548 |
3.9 |
0.2 |
47.5 |
2549 |
4.0 |
0.5 |
47.0 |
2550 |
4.5 |
12.5 |
52.4 |
2551 |
4.9 |
10.6 |
57.1 |
2552 |
5.3 |
6.9 |
60.5 |
2553 |
5.9 |
11.3 |
66.0 |
|
|
ในขณะเดียวกัน การบริโภคไข่ของคนเวียดนามก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2553 บริโภค 66 ฟองต่อคนต่อปี หรือประมาณ 4 กิโลกรัม ซึ่งเป็นอัตราการบริโภคที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของการบริโภคคนไข่ของเอเซียที่มีการบริโภคอยู่ประมาณ 9 กิโลกรัมต่อคนต่อปี นอกจากนี้ตามยุทธ์การพัฒนาการผลิตสัตว์ปีก ปี 2563 รัฐบาลเวียดนามส่งเสริมให้ไก่ไข่ให้มากขึ้น โดยเน้นการเลี้ยงแบบอุตสาหกรรม เพื่อให้มีการผลิตไข่ไก่ต่อปีสูงขึ้น รวมถึงการส่งเสริมให้มีการส่งออกไข่ไก่ พร้อมกับการรณรงค์ให้มีการบริโภคเพิ่มขึ้น โดยคาดว่า ในปี 2558 คนเวียดนามจะบริโภคไข่ไก่ 116 ฟองต่อคนต่อปี และ 120 ฟองต่อคนต่อปีในปี 2563... |
|
ข้อมูลโดย นิตยสาร พิก แอนด์ พอร์ค |
|
|